Gaming Keyboard ถือว่าเป็นหนึ่งในอาวุธของเหล่าเกมเมอร์เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการคอนโทรลต่างๆ ฟีลลิ่งการสัมผัสล้วนส่งผลต่อเหล่านักเล่นเกมทั้งนั้น ในเมื่อมันสำคัญขนาดนี้แล้ว เราจะเลือกซื้อ Gaming Keyboard ยังไง ให้ตรงใจ ตอบโจทย์การใช้งาน เดี๋ยวเรามาดูกันเลย
อย่างแรก ประเภทของ Gaming Keyboard หลักจะมี อยู่ 3 ประเภท
- Mechanical Gaming Keyboard : เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้สวิตช์กลไก (mechanical switches) เพื่อให้ประสบการณ์การพิมพ์และการกดปุ่มที่แม่นยำ รวดเร็ว และทนทานมากขึ้นเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดเมมเบรน (membrane keyboard) โดยเฉพาะการใช้งานในเกมที่ต้องการความรวดเร็วและตอบสนองที่ดี ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่เกมเมอร์มาก
- Membrane Gaming Keyboard : เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้สวิตช์แบบยาง หรือ เรียกในอีกชื่อนึงว่า Rubber Dome ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่า แต่มีความแม่นยำน้อยกว่าและความทนทานต่ำกว่า แต่มีราคาที่ถูกกว่า แบบ Mechanical Gaming Keyboard เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าในราคานั้นเอง สามารหาซื้อได้ทั่วไปหลากหลายแบรนด์หลากหลายราคา
- Hybrid Gaming Keyboard : เป็นคีย์บอร์ดที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี mechanical และ Membrane ภายในคีย์บอร์ดตัวเดียว จะให้สัมผัสและเสียงใกล้เคียงกับสวิตช์ mechanical แต่ยังคงความนุ่มนวลของ Membrane
หลังจากรู้จักประเภทกันไปแล้ว มาดู คุณสมบัติของ Gaming Keyboard กันบ้างดีกว่า ว่ามีดีอะไรกันบ้าง
1. RGB Lighting:
- ปรับแต่งไฟได้ตามต้องการ: มีไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งสีและเอฟเฟกต์ได้หลากหลายตามความชอบ ผ่านซอฟต์แวร์ของแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Razer Synapse, Corsair iCUE, Logitech G HUB
- โหมดแสง: มีโหมดแสงที่ตั้งค่าได้ เช่น Wave, Breathing, Static, Reactive เป็นต้น หรือในบางรุ่นสามารถปรับแต่งให้แสงแสดงออกมากต่างกันในแต่ละเกมได้
2. Macro Keys:
- ปุ่มมาโคร: ปุ่มเพิ่มเติมที่สามารถตั้งค่าให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว เหมาะสำหรับเกมที่ต้องการการทำงานซ้ำซ้อน เช่น MMO, MOBA
3. Anti-Ghosting และ N-Key Rollover:
- Anti-Ghosting: ป้องกันการผิดพลาดเมื่อกดหลายปุ่มพร้อมกัน
- N-Key Rollover: รับรู้การกดปุ่มทุกปุ่มที่ถูกกดพร้อมกัน โดยไม่มีการขัดข้อง
4. Build Quality:
- วัสดุทนทาน: ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น พลาสติกแข็ง อะลูมิเนียม รวมถึงสายเคเบิลที่มีการถักป้องกันการพันกันและทนทาน
5. Ergonomics:
- การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์: มีที่รองข้อมือที่ถอดออกได้ ปรับระดับความสูงได้ เพื่อความสบายในการใช้งานนาน ๆ
6. Software Integration:
- ซอฟต์แวร์: มีซอฟต์แวร์สำหรับการตั้งค่าและปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Razer Synapse, Corsair iCUE, Logitech G HUB ซึ่งสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ต่าง ๆ สำหรับเกมที่แตกต่างกันได้
การเลือกซื้อ Gaming Keyboard
- ประเภทของสวิตช์ : เลือกสวิตช์ที่เหมาะกับการใช้งานและความชอบของคุณโดยหลักๆจะแบ่งเป็น 3 สวิทช์
- Linear : เสียงกดเบา มีการตอบสนองที่รวดเร็ว เพราะเป็นรูปแบบการกดแบบจังหวะเดียว เหมะสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะ ไม่รบกวนผู้อื่น
- Tactile : รูปแบบเสียงกดเบาค่อนข้างเบา แต่ดังกว่าของ Linear รูปแบบการกดเป็นแบบ 2 จังหวะ เหมาะสำหรับการนำไปใช้การพิมพ์เยอะๆ เช่นการแชท หรือ การทำงาน
- Clicky : เป็นสวิตช์ที่เสียงดังที่สุดใน 3 ประเภทนี้ และเป็นที่นิยมในการนำไปใช้ในการเล่นเกม ด้วยพลังเสียงกดที่ฟังแล้วฮึกเหิม และความแรงที่กดลงปุมคีย์บอร์ดแบบ 2 จังหวะ ยิ่งทำให้ยิ่งกดยิ่งมันส์
- คุณสมบัติพิเศษ : ตรวจสอบว่ามีฟีเจอร์ที่ต้องการ เช่น RGB lighting, ปุ่มมาโคร, Anti-Ghosting และ N-Key Rollover
- ซอฟต์แวร์ : ตรวจสอบว่าคีย์บอร์ดมีซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ
- การออกแบบและความทนทาน : เลือกคีย์บอร์ดที่มีการออกแบบและวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งาน
- ราคา : พิจารณางบประมาณของคุณและเลือกคีย์บอร์ดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในราคาที่คุณยอมรับได้
ข้อดีและข้อเสียของ Gaming Keyboard
ข้อดี:
- ประสิทธิภาพสูง: การตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำ
- ฟีเจอร์มากมาย: มีปุ่มมาโคร, RGB lighting, Anti-Ghosting และ N-Key Rollover
- การปรับแต่ง: ปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์เพื่อให้เหมาะสมกับเกมต่าง ๆ
ข้อเสีย:
- ราคา: มีราคาสูงเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดทั่วไป
- ความยุ่งยากในการตั้งค่า: บางครั้งการตั้งค่าผ่านซอฟต์แวร์อาจซับซ้อน
- ขนาดใหญ่: บางรุ่นมีขนาดใหญ่และหนัก ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการพกพา
เอาละครับ ตอนนี้เราก็รู้จัก Gaming Keyboard กันแล้ว เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดที่ตอบสนองเร็ว ทนทาน และมีฟีเจอร์มากมายในการปรับแต่งเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด หากสนใตอยากจับจอง Gaming Keyboard ไว้ลองใช้ กดซื้อกันได้เลยที่ itcity.in.th